ภายหลังจากการระบาดของเชื้อ Covid-19 ทำให้วิถีในการใช้ชีวิตประจำวันนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก และหลายคนเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างไปอย่างถาวร เช่นการใช้เจล แอลกอฮอล์ ล้างมือ ล้างมือทุกครั้งหลังจากทำกิจวัตรต่างๆเป็นประจำ แต่แท้จริงแล้ว แอลกอฮอลล์มีหลากหลายประเภท บางประเภทสามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในเชื้อเพลิง บางประเภทเป็นส่วนผสมในเคมีภัณฑ์มากมาย
วันนี้ CH จะพาไปรู้จักประเภทของแอลกอฮอล์ ประเภทไหนนะที่นำไปเป็นผสมของเจลล้างมือ ประเภทไหนที่ผสมในน้ำมัน ประเภทไหนเป็นน้ำยาล้างแผล
- แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติหลายอย่างที่ทำให้มันเป็นสารที่มีประโยชน์และมีการใช้งานอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมต่างๆ คุณสมบัติหลักๆ ของแอลกอฮอล์ที่ทำให้มันเหมาะสมสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมได้แก่:
- เป็นตัวทำละลายที่ดี: แอลกอฮอล์สามารถละลายสารต่างๆ ได้ดี เช่น เรซิน น้ำมัน และไขมัน จึงมักถูกใช้ในอุตสาหกรรมเคมี เครื่องสำอาง และยา
- ระเหยได้เร็ว: แอลกอฮอล์มีจุดเดือดต่ำและระเหยได้เร็ว ทำให้มันเหมาะสมสำหรับการใช้งานในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการแห้งเร็ว เช่น สีหมึก และสารเคลือบเงา
- เป็นสารฆ่าเชื้อ: แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ทำให้มันถูกใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์และการทำความสะอาด
- เป็นเชื้อเพลิง: เอทานอล (ชนิดหนึ่งของแอลกอฮอล์) สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันเบนซินได้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์
- มีความเข้ากันได้กับสารอื่นๆ: แอลกอฮอล์สามารถผสมกับน้ำและสารอินทรีย์อื่นๆ ได้ง่าย ทำให้มันเป็นส่วนผสมที่ดีในผลิตภัณฑ์หลายชนิด
- ใช้ในกระบวนการผลิต: แอลกอฮอล์ถูกใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ เช่น การผลิตพลาสติก ยาง และสารเคมี
- เป็นตัวกลางในการทำปฏิกิริยาเคมี: ในอุตสาหกรรมเคมี แอลกอฮอล์สามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการทำปฏิกิริยาเคมีต่างๆ เช่น การสังเคราะห์สารเคมี
- การนำไฟฟ้า: แอลกอฮอล์มีความสามารถในการนำไฟฟ้าเล็กน้อย ซึ่งมีความสำคัญในกระบวนการทางอุตสาหกรรมบางประเภท
คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้แอลกอฮอล์เป็นสารที่มีคุณค่าและมีการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวาง
สารบัญ
Toggleประเภทของแอลกอฮอล์
1. เมทานอล (Methanol)
เป็นแอลกอฮอล์ที่มีจุดเดือนและจุดวาบไฟต่ำที่สุด ระเหยง่ายที่สุด ดังนั้นจึงเป็นอันตรายมาก มีข้อห้ามไม่ให้นำแอลกอฮอล์ชนิดนี้ไปผสมกับผลิตภัณฑ์อาหารเครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับผู้บริโภคโดยตรง เช่น สเปรย์ฉีดผม เป็นต้น ดังนั้นเราจึงพบเมทานอลได้ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งอาจใช้เป็นสารทำละลาย หรือ สารหล่อเย็น เป็นต้น
2. เอทานอล (Ethanol)
ผลิตจาก การแปรรูปพืชผลทางเกษตรประเภทแป้งและน้ำตาล เช่น มันสำปะหลัง, อ้อย, กากน้ำตาล และข้าวโพด เป็นต้น โดยผ่านกระบวนการย่อยแป้งเป็นน้ำตาล (สำหรับวัตถุดิบประเภทแป้ง) กระบวนการหมักเพื่อเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ และกระบวนการกลั่น รวมถึงกระบวนการแยกน้ำออก เอทานอลนี้มีจุดเดือนสูงกว่าเมทานอล มีอันตรายต่อร่างกายน้อย ทำให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น
- เอทานอลเข้มข้นร้อยละ 70 มีฤทธิ์ในการทำลายเชื้อแบคทีเรีย เชื้อวัณโรค เชื้อราและเชื้อไวรัส แต่ไม่สามารถทำลายสปอร์ของเชื้อแบคทีเรียได้
- ใช้เป็นตัวทำละลายทั้งทางด้านอุตสาหกรรมและทางเภสัชกรรม เช่น เป็นตัวทำละลายในยาแก้ไอ
- นำไปผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการณ์น้ำมันราคาแพง โดยใช้เอทานอลที่มีความบริสุทธิ์ตั้งแต่ 95% โดยปริมาตรไปผสมกับน้ำมัน ถ้าผสมกับน้ำมันเบนซินจะเรียกว่า แก๊สโซฮอล์ โดยผสมในอัตราส่วน 10% บางครั้งจึงเรียกว่า น้ำมัน E-10 เนื่องจากเอทานอลมีสมบัติช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำมัน จึงทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นและเป็นการลดมลพิษในอากาศ
3. ไอโซโพรพานอล (Iso-Propanol – IPA)
เป็น แอลกอฮอล์ ประเภทที่ใช้เป็นยาล้างแผล หรือ สารละลาย สารทำความสะอาดในห้องปฏิบัติการ
4. บิวทานอล (Butanol)
ใช้เป็นพลังงานชีวภาพ ซึ่งปัจจุบันยังได้รับอนุมัติให้มีการใช้เป็นส่วนผสมในเชื้อเพลิงการบินยั่งยืนอีกด้วย
บริษัท Chemical House and Lab Instrument จำหน่ายเครื่องทดสอบจุดวาบไฟของสารเคมีและเชื้อเพลิงต่างๆ รวมทั้งเครื่องวัดปริมาณเอทานอลในน้ำมันแก๊สโซฮอล
เครื่องทดสอบจุดวาบไฟแบบอัตโนมัติ
เครื่องทดสอบปริมาณเอทานอลในเชื้อเพลิง
สามารถติดต่อ บริษัท Chemical House & Lab Instrument หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 02-1844000
อีเมล: ptsales@chemihouse.com
หรือ Line OA หรือ Add line จาก QR Code ด้านล่าง
—
ที่มา: https://alcoholmtbk63.wordpress.com/about/
https://www.lannar.com/main/?page_id=53