เครื่องวิเคราะห์ XRF กับ ความปลอดภัยด้านอาหาร
อาหารปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญ ต่อการ ดำรงชีวิต องค์การ สหประชาชาติ (United Nations หรือ UN) ประกาศ ให้ วันที่ 7 มิ.ย.ของ ทุกปี เป็น “วันความปลอดภัยอาหารโลก” (World Food Safety Day) โดย มีวัตถุประสงค์ เพื่อ กระตุ้น ให้ ประเทศ สมาชิก ให้ ความสำคัญ ในการ ปรับปรุง ความปลอดภัยด้านอาหาร และ ยกระดับ คุณภาพ การบริโภค อาหาร และ มาตรฐานการ ครองชีพ ของประชากรโลก ให้ดีขึ้น
จากข้อมูล จาก องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) พบว่า ทั่วโลก มีผู้ป่วยด้วย โรคที่มีสาเหตุจากอาหารประมาณ 600 ล้านคน/ปี และเสียชีวิต 420,000 คน/ปี ขณะที่ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก มีคนล้มป่วยด้วยสาเหตุจากอาหาร 275 ล้านคน/ปี โดยที่ผู้ป่วยเหล่านี้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ ทำให้สูญเสียรายได้ ซึ่งข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นถึง ปัญหาด้านสาธารณสุขอย่างชัดเจน ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งประเทศไทยเรารวมอยู่ด้วย เมื่อผู้บริโภคได้รับ อาหารปนเปื้อนเหล่านี้ เข้าสู่ร่างกาย จึงทำให้เจ็บป่วย หรือ อาจเสียชีวิตได้ กลายเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และกระทบต่อเนื่องไปสู่ ภาคเศรษฐกิจ และสังคม
เป็นเวลากว่า 45 ปีแล้วที่ Hitachi ได้ผลิตเครื่องวิเคราห์ XRF (X-Ray fluorescence) ที่ช่วยให้หลายธุรกิจทั่วโลกสามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดทางด้าน มาตรฐานอาหารปลอดภัย สารอาหาร และคุณภาพอาหาร XRF เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ ที่ถูกใช้มานานหลายปี เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของธาตุ ในวัสดุที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงอาหาร และผลิตผลทางการเกษตร XRF สามารถธาตุได้ตั้งแต่ โซเดียม (Na) ถึง ยูเรเนรียม (U) ในปริมาณตั้งแต่ระดับ ppm จนถึงระดับเปอร์เซ็นต์สูงๆ ในตัวอย่างพวก ของแข็ง ของเหลว และฝุ่นผง
หน้าที่ของเครื่อง XRF ที่ใช้ในการรับรองความปลอดภัยของอาหาร
ในด้านความปลอดภัยของอาหาร การเรืองแสงด้วยรังสีเอ็กซ์ (XRF) ได้กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับองค์ประกอบธาตุของผลิตภัณฑ์อาหาร เทคนิคการวิเคราะห์ที่ไม่ทำลายนี้ให้ข้อมูลที่รวดเร็วและแม่นยำซึ่งจำเป็นสำหรับการรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร
XRF มีส่วนช่วยในการรับรองความปลอดภัยของอาหารในหลายๆ ด้านอย่างไร
1. การตรวจจับสารปนเปื้อน
หนึ่งในการใช้งานหลักของ XRF ในความปลอดภัยของอาหารคือการตรวจจับสารปนเปื้อน XRF สามารถระบุและวัดปริมาณธาตุที่เป็นสภาพแวดล้อมและโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม และสารหนู ธาตุเหล่านี้แม้ในระดับต่ำก็อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างมากหากบริโภคเป็นเวลานาน การใช้ XRF ช่วยให้ผู้ผลิตอาหารและผู้ควบคุมสามารถมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์อาหารปราศจากระดับสารปนเปื้อนที่เป็นอันตราย นี่คือสิ่งสำคัญในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยและการปกป้องสุขภาพของประชาชน
2. การตรวจสอบเนื้อหาทางโภชนาการ
XRF ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการตรวจจับสารปนเปื้อน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบเนื้อหาทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์อาหาร เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ธาตุที่สำคัญ เช่น แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี การตรวจสอบที่แม่นยำของธาตุเหล่านี้ช่วยให้มั่นใจว่าป้ายอาหารสะท้อนถึงเนื้อหาทางโภชนาการที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ สำหรับผู้บริโภค นี่หมายถึงการมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการทำทางเลือกทางโภชนาการอย่างมีข้อมูลและจัดการสุขภาพของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การควบคุมคุณภาพ
ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร การรักษาความสอดคล้องและคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ XRF ถูกใช้เพื่อการควบคุมคุณภาพเพื่อตรวจสอบความสอดคล้องขององค์ประกอบของส่วนผสมตลอดกระบวนการผลิต โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างอย่างสม่ำเสมอ ผู้ผลิตสามารถมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาตรงตามมาตรฐานคุณภาพและปราศจากความไม่สอดคล้องที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพ การรับประกันคุณภาพอย่างต่อเนื่องนี้ช่วยให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ให้แก่ผู้บริโภค
4. การปฏิบัติตามข้อกำหนด
ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของอาหารแตกต่างกันไปตามประเทศ โดยมักกำหนดระดับที่อนุญาตสำหรับธาตุบางชนิดในผลิตภัณฑ์อาหาร XRF ให้วิธีการที่เชื่อถือได้ในการทดสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ โดยการใช้ XRF ในการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์อาหาร ผู้ผลิตสามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขาปฏิบัติตามมาตรฐานทางกฎหมายและหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น การปฏิบัติตามข้อกำหนดไม่เพียงแต่หลีกเลี่ยงค่าปรับและการเรียกคืนสินค้า แต่ยังช่วยในการสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและชื่อเสียงของแบรนด์
5. การทดสอบที่ไม่ทำลาย
ข้อดีที่สำคัญของ XRF คือคุณสมบัติที่ไม่ทำลาย เทคนิคนี้ช่วยให้สามารถทดสอบผลิตภัณฑ์อาหารโดยไม่เปลี่ยนแปลงหรือทำลายสารอาหาร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงหรือผลิตภัณฑ์ที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงซึ่งการรักษาความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญ การทดสอบที่ไม่ทำลายช่วยให้แน่ใจว่าอาหารยังคงสมบูรณ์ในขณะที่ยังให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ได้ด้วย
สรุป
โดยรวมแล้ว การเรืองแสงด้วยรังสีเอ็กซ์ (XRF) มีความโดดเด่นเรื่องการเป็น เครื่องมือวัด ที่มีค่าในอุตสาหกรรมอาหารสำหรับการรับรองความปลอดภัย คุณภาพ และการปฏิบัติตามข้อกำหนด ความสามารถในการวิเคราะห์องค์ประกอบธาตุของผลิตภัณฑ์อาหารได้อย่างรวดเร็วและไม่ทำลายธาตุ ทำให้ XRF เป็นเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้สำหรับตรวจจับสารปนเปื้อน การตรวจสอบเนื้อหาทางโภชนาการ การควบคุมคุณภาพ และการปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยความปลอดภัยของอาหารยังคงเป็นลำดับความสำคัญระดับโลก XRF จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยปกป้องสุขภาพของประชาชนและเป็นสิ่งที่รับรองว่าผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง
ตัวอย่าง การประยุกต์ใช้เครื่องวิเคราะห์ XRF ของ Hitachi ช่วยใน ความปลอดภัยด้านอาหาร
ปริมาณเกลือในอาหาร
รัฐบาลหลายประเทศ มีกฎระเบียบที่เข้มงวด เพื่อลดปริมาณเกลือในอาหาร ในอดีตปริมาณเกลือในอาหารจะถูกวัดในห้องปฎิบัติการโดยการไทเทรต ด้วยสารซิลเวอร์ไนเตรต ภายหลังจึงมีการประยุกต์ใช้เครื่อง XRF แบบตั้งโต๊ะ มาตรวจสอบปริมาณเกลือแทน เนื่องจากเป็นเทคนิคที่เหมาะกับการไปใช้งาน ในสภาพแวดล้อมการผลิตอาหารจริงๆ เครื่อง Hitachi รุ่น LAB-X ให้ความแม่นยำ และรวดเร็วพอที่จะทำให้การผลิตดำเนิต่อไปโดยไม่สะดุด โดยเครื่องสามารถตรวจจับ ปริมาณคลอรีนที่มาจากเกลือได้อย่างแม่นยำ และคำนวณกลับไปเป็นปริมาณเกลือ
นมผง
ในแต่ละปีมี การผลิตนมผงทั่วโลก มากกว่า 8 ล้านตัน สำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารมากมาย เช่น นมผงสำหรับทารก อาหารเสริม และอื่นๆ เพื่อให้ผ่านมาตรฐาน การควบคุมปริมาณส่วนผสมของนมผงเป็นเรื่องสำคัญ โดยปกติการวิเคราะห์นมผงจะส่งไปทดสอบ ในห้องปฎิบัติการโดยใช้เครื่องวิเคราะห์ ICP ซึ่งมีต้นทุนสูงและใช้เวลานานในการเตียมสารเคมีเพื่อทดสอบ และยังต้องอาศัยทักษะที่สูงของผู้ทำการวิเคราะห์ ต่อมาจึงมีการประยุกต์ใช้เครื่องวิเคราะห์ XRF แบบพกพา (Handheld XRF) เครื่อง Hitachi รุ่น X-MET8000 สามารถวัดปริมาณ P, Cl, K, Ca, Mn, Fe, Cu, และ Zn ในนมผงได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
สามารถติดต่อ บริษัท Chemical House & Lab Instrument หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
โทร: 02-1844000
อีเมล: mtsales@chemihouse.com
หรือ Line OA หรือ Add line จาก QR Code ด้านล่าง
