อย่างที่ทราบกันว่าในปัจจุบัน น้ำม้นดีเซลที่เราใช้อยู่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้นเป็น น้ำมันดีเซล b7 กล่าวคือ มีน้ำมันไบโอดีเซล หรือ B100 7% ผสมในน้ำมันดีเซลจากโรงกลั่นปิโตรเลียม
ไบโอดีเซล 7″ มักเรียกอีกอย่างว่าไบโอดีเซล B7 เป็นส่วนผสมของไบโอดีเซลและน้ำมันดีเซลธรรมดา ในบริบทของ B7 “7” แสดงว่าส่วนผสมของเชื้อเพลิงประกอบด้วยไบโอดีเซล 7% และน้ำมันดีเซลปิโตรเลียม 93%
มาทำความรู้จักกันกับน้ำมัน B7
- องค์ประกอบ ไบโอดีเซล B7 ประกอบด้วยไบโอดีเซล 7% ซึ่งโดยทั่วไปผลิตจากน้ำมันพืช ไขมันสัตว์ หรือน้ำมันปรุงอาหารรีไซเคิล ผสมกับน้ำมันดีเซลธรรมดา 93%
- ความเข้ากันได้ ไบโอดีเซล B7 ใช้ได้กับเครื่องยนต์ดีเซลส่วนใหญ่โดยไม่ต้องดัดแปลงใดๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ง่ายและใช้งานได้จริงในการลดการปล่อยคาร์บอนในยานยนต์ดีเซลที่มีอยู่
- ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม การใช้ไบโอดีเซล B7 ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อนุภาค และมลพิษอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลปิโตรเลียมบริสุทธิ์ ไบโอดีเซลมีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำกว่าเนื่องจากได้มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน
- ประสิทธิภาพ ไบโอดีเซล B7 ให้ประสิทธิภาพและปริมาณพลังงานที่ใกล้เคียงกับดีเซลธรรมดา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดในสมรรถนะของยานพาหนะหรือประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง
- ความลื่นไหล ไบโอดีเซลมีคุณสมบัติในการหล่อลื่นที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับดีเซลปิโตรเลียม ซึ่งสามารถช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์และยืดอายุการใช้งานของส่วนประกอบเครื่องยนต์ได้
- กฎระเบียบและมาตรฐาน ไบโอดีเซล B7 เป็นไปตามมาตรฐาน ASTM D7467 ซึ่งรับประกันได้ว่ามีคุณภาพสูงและเหมาะสำหรับใช้ในเครื่องยนต์ดีเซล
- ข้อกำหนดด้านพลังงานหมุนเวียน ในหลายภูมิภาค การใช้ส่วนผสมของไบโอดีเซล เช่น B7 ได้รับคำสั่งจากนโยบายพลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและส่งเสริมแหล่งพลังงานที่สะอาดกว่า
โดยรวมแล้ว ไบโอดีเซล B7 เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและตรงไปตรงมาในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของเครื่องยนต์ดีเซลโดยไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานหรือการออกแบบเครื่องยนต์มากนัก
ประกาศจากคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน
ล่าสุดในวันที่ 30 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) เห็นชอบให้ใช้น้ำมันดีเซล B10 หรือน้ำมันที่ส่วนผสมของB100 10% เป็นน้ำมันเกรดมาตรฐานของไทย แทนที่ น้ำมันดีเซล b7 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ส่วนดีเซลB7และดีเซลB20 ให้กลายเป็นน้ำมันทางเลือก โดยเริ่มมีผลทันที1 ม.ค. 2563 นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดส่วนต่างราคา ระหว่าง B20 และ B7 จาก 5 บาทต่อลิตร เป็น 3 บาทต่อลิตร และระหว่าง B10 และ B7 เป็น 2 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562 นี้ โดยปัจจุบันมีผู้ผลิตไบโอดีเซล B100 จำนวน 9 ราย สามารถผลิตน้ำมัน B10ได้ 6,892,242 ลิตรต่อวัน และมีค่ายรถยนต์รับรองว่าใช้น้ำมันดีเซล B10 ได้ประมาณ 5.2 ล้านคัน จากจำนวน 10.4 ล้านคัน หรือ 50% ของรถยนต์ดีเซลทั้งหมด (ที่มา: Energy news center)
อย่าลืมสำรวจรุ่นรถของตัวเองว่าสามารถเติมน้ำมัน B10 ได้หรือไม่
ก่อนหน้านี้นั้นทาง ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้มีโครงการสนับสนุนการเพิ่มสัดส่วนการใช้น้ำมันไบโอดีเซลให้สูงขึ้น และ โครงการความร่วมมือในการปรับปรุงคุณภาพไบโอดีเซล และทดสอบกับรถยนต์ประสบความสำเร็จ (ที่มา: mtec.or.th)
การผสมน้ำมัน B100 ในสัดส่วนที่สูงขึ้นนั้น ส่งผลต่อคุณสมบัติของน้ำมันดีเซล อย่างเช่น Cloud Point, Cold Filter Plugging Point, Cetane Number เป็นต้น บริษัท Chemical House และบริษัท PAC มีเครื่องทดสอบน้ำมันปิโตรเลียม รวมถึงน้ำมันดีเซลทุกรูปแบบ และหลากหลายคุณสมบัติ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.chemihouse.com/petroleum-by-industries/
ที่มา: https://www.energynewscenter.com/กบง-ดันดีเซลb10เป็นเกรดมา/
https://www.mtec.or.th/news-event/27318/
https://www.mtec.or.th/research-projects/1316/
—
โทร 02-184-4000 Chemical House
สอบถาม Add Line OA หรือ Add line จาก QR Code ด้านล่าง
